Skip to content
Header
You are on the main content



กาแฟคั่วเข้ม คั่วกลาง คั่วอ่อน ต่างกันอย่างไร?



กาแฟคั่วอ่อน คั่วกลาง และคั่วเข้มต่างกันอย่างไร

รู้หรือไม่ว่า กว่าจะมาเป็นกาแฟสดรสชาติหอมกรุ่นให้เราได้ดื่มในแต่ละแก้วนั้น เมล็ดกาแฟสดแต่ละเมล็ดได้มีการเดินทางผ่านขั้นตอนอะไรมาบ้าง

ตั้งแต่ผลเชอร์รี่กาแฟที่ผ่านการเก็บจากพื้นที่ในแต่ละประเทศ ที่มีสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่แตกต่าง ไปจนถึงการคั่วและการบริว จนออกมาเป็นกาแฟหนึ่งแก้ว ซึ่งคอกาแฟสดจะทราบกันดีว่า นอกจากจะมาจากพื้นที่ที่เพาะปลูกกาแฟที่ต่างกันแล้ว การคั่วกาแฟในแต่ละรูปแบบ ทั้งกาแฟคั่วอ่อน คั่วกลาง และคั่วเข้ม ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้กาแฟสดมีกลิ่นและรสชาติที่แตกต่าง


ในวันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักและเจาะลึกกับการคั่วกาแฟในแบบต่างๆ ทั้งกาแฟคั่วอ่อน คั่วกลาง และคั่วเข้ม ให้มากยิ่งขึ้นว่า ภายในเมล็ดกาแฟคั่วเพียง 1 เมล็ดนั้นมีมิติอันสลับซับซ้อนของกลิ่นอโรม่า รสชาติ ไปจนถึงเนื้อสัมผัสซ่อนอยู่มากมาย เพื่อคุณจะได้ดื่มด่ำไปกับสุนทรียภาพของกาแฟในขณะที่ดื่ม รับรองได้เลยว่าการดื่มกาแฟในแก้วถัดไปของคุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป



กาแฟคั่วเข้ม คั่วกลาง และกาแฟคั่วอ่อน


การคั่วกาแฟถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่เปลี่ยนเมล็ดกาแฟดิบสีเขียวอ่อนที่มีกลิ่นใบไม้ให้กลายมาเป็นเมล็ดกาแฟสีเข้มที่ส่งกลิ่นหอมเฉพาะตัว หากไม่ผ่านกรรมวิธีการคั่ว เมล็ดกาแฟก็ไม่สามารถนำมาสกัดเป็นเครื่องดื่มได้

การคั่วแบ่งออกเป็น 3 ระดับหลัก ได้แก่


  • กาแฟคั่วอ่อน ที่ผ่านการคั่วในอุณหภูมิต่ำและเวลาสั้น มีรสเปรี้ยวเล็กน้อย กลิ่นผลไม้หรือดอกไม้ และคาเฟอีนสูง

  • กาแฟคั่วกลาง ที่มีความสมดุล รสไม่เปรี้ยวเกินไป กลิ่นหอมเข้มเล็กน้อย นิยมใช้ทำเมนูได้หลากหลาย

  • กาแฟคั่วเข้ม ที่คั่วในอุณหภูมิสูง มีรสขมหนักแน่น กลิ่นควันไหม้หอมๆ และคาเฟอีนต่ำลงเนื่องจากความร้อนทำลายคาเฟอีนบางส่วน

ซึ่งความแตกต่างเพียงเล็กน้อยในระยะเวลาและอุณหภูมิการคั่วสามารถสร้างรสชาติและกลิ่นสัมผัสที่แตกต่างกันได้อย่างน่าอัศจรรย์



กาแฟคั่วเข้ม


กาแฟคั่วเข้ม (Dark Roast) คืออะไร?

กาแฟคั่วเข้มเกิดจากกระบวนการคั่วเมล็ดกาแฟด้วยความร้อนในระดับสูง ต้องใช้ความร้อนตั้งแต่ 225°C ขึ้นไป เพื่อให้ได้เมล็ดสีเข้ม รสเข้มข้น กลิ่นไหม้เล็กน้อย ให้สีน้ำตาลเข้มกว่ากาแฟชนิดอื่น มีน้ำมันเป็นจำนวนมากที่เกิดจากการคั่วเคลือบอยู่ที่เมล็ด กลิ่นหอมไหม้แบบสโมค บอดี้กาแฟจะข้น สีกาแฟจะเข้มชัดเจน กาแฟคั่วเข้มมีความเข้มมากที่สุดจากทุกระดับการคั่ว ทำให้มีรสชาติขม เข้มข้น และรสชาติจะออกไปทางหวานมากกว่าเปรี้ยว นิยมนำมาทำเมนูกาแฟเย็นใส่นม

กาแฟคั่วเข้มถือเป็นกาแฟที่ได้รับความนิยมทั่วโลกอีกเช่นกัน เนื่องจากสามารถนำมาทำกาแฟได้หลากหลายเมนู และรสชาติและกลิ่นที่โดดเด่นชัดเจน


ลักษณะทางกายภาพของเมล็ดเป็นอย่างไร?

เป็นสีน้ำตาลเข้ม ผิวของเมล็ดกาแฟมีน้ำมันเคลือบอยู่มากที่สุด


รสชาติของกาแฟคั่วเข้มเป็นอย่างไร?

กาแฟคั่วเข้มมีรสขมและเข้ม มีกลิ่นหอมควัน ส่วนใหญ่มีรสไปทางหวานมากกว่าเปรี้ยว


กาแฟคั่วเข้มเหมาะกับการดื่มรูปแบบไหน?

กาแฟคั่วเข้มเหมาะสำหรับเมนูเอสเพรสโซ่ หรือกาแฟใส่นมอย่าง คาปูชิโน่ มอคค่า ลาเต้ ฯลฯ



กาแฟคั่วกลาง


กาแฟคั่วกลาง (Medium Roast) คืออะไร?

กาแฟคั่วกลางเกิดจากกระบวนการคั่วเมล็ดกาแฟด้วยความร้อนในระดับกลาง ใช้อุณหภูมิประมาณ 210-220°C รสชาติสมดุล ไม่เปรี้ยวหรือเข้มจนเกินไป ให้สีน้ำตาลเข้มกว่ากาแฟคั่วอ่อน มีน้ำมันที่เกิดจากการคั่วเคลือบอยู่ที่เมล็ด กลิ่นหอมคาราเมลและนัตตี้ มีบอดี้กาแฟหนักมากขึ้น และมีรสชาติหอมหวานกลมกล่อมในแบบพอดี ๆ


เนื่องจากกาแฟคั่วกลางนั้นมีระดับการคั่วที่อยู่กึ่งกลางระหว่างกาแฟคั่วอ่อนและกาแฟคั่วเข้ม ทำให้รสชาติออกมาจะไม่ขมเกินไปและไม่บางหรือเปรี้ยวจนเกินไป มักเป็นที่นิยมสำหรับคอกาแฟหลายคนในการทำกาแฟนมทั้งร้อนและเย็นได้หลากหลายเมนู

กาแฟคั่วกลางถือได้ว่าเป็นกาแฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั่วโลก เนื่องจากกาแฟคั่วกลางมีรสชาติที่กลมกล่อมเข้าถึงง่ายสำหรับคอกาแฟหลายคน


ลักษณะทางกายภาพของเมล็ดเป็นอย่างไร?

เป็นสีน้ำตาลเข้มกว่าเมล็ดกาแฟคั่วอ่อน ผิวของเมล็ดกาแฟมีน้ำมันเคลือบอยู่บาง ๆ


รสชาติของกาแฟคั่วกลางเป็นอย่างไร?

กาแฟคั่วกลางมีรสชาติความเข้มที่อยู่กึ่งกลางระหว่างกาแฟคั่วอ่อนและคั่วเข้ม ความหอมหวานกลมกล่อม


กาแฟคั่วกลางเหมาะกับการดื่มรูปแบบไหน?

สามารถทำกาแฟนมได้หลากหลายเมนู เช่น คาปูชิโน่ มอคค่า ลาเต้ฯลฯ



กาแฟคั่วอ่อน


กาแฟคั่วอ่อน (Light Roast) คืออะไร?

กาแฟคั่วอ่อนเกิดจากกระบวนการคั่วเมล็ดกาแฟด้วยความร้อนต่ำ ประมาณ 190 – 210 องศาเซลเซียส จึงทำให้เมล็ดกาแฟมีสีน้ำตาลอ่อน ผิวดูแห้งเพราะยังไม่มีน้ำมันออกมาเคลือบบริเวณเมล็ด กาแฟคั่วอ่อนมีรสชาติและความขมที่เบาที่สุดจากทุกระดับการคั่ว รสชาติออกเปรี้ยวและหวานที่ปลายลิ้นพร้อมกลิ่นดอกไม้ ผลไม้ ต่าง ๆ ทำให้ทานง่ายแม้เป็นเมนูกาแฟดำ กาแฟคั่วอ่อน เหมาะนำไปทำกาแฟดริปหรือสโลว์บาร์ต่าง ๆ


ลักษณะทางกายภาพของเมล็ดเป็นอย่างไร?

เป็นสีน้ำตาลอ่อน เมล็ดดูแห้ง บางครั้งดูมีเปลือกกาแฟบางๆ หลงเหลืออยู่ (Silver Skin)


รสชาติของกาแฟคั่วอ่อนเป็นอย่างไร?

กาแฟคั่วอ่อนมีรสชาติที่เบาที่สุดจากระดับการคั่วทั้ง 3 ระดับ มีความเปรี้ยวหรือบางครั้งมีรสหวานคล้ายดอกไม้ที่ปลายลิ้นและกลิ่นผลไม้ตามสายพันธุ์กาแฟที่นำมาใช้ ซึ่งมักจะพบได้ในกาแฟจากแอฟริกา


กาแฟคั่วอ่อนเหมาะกับการดื่มรูปแบบไหน?

กาแฟดริปหรือสโลว์บาร์ต่าง ๆ


ตารางเปรียบเทียบระดับการคั่วกาแฟ: อ่อน vs กลาง vs เข้ม

ระดับการคั่ว ลักษณะทางกายภาพของเมล็ด รสชาติของกาแฟ เหมาะกับการดื่มรูปแบบไหน
คั่วอ่อน (Light Roast) สีน้ำตาลอ่อน ผิวแห้ง ไม่มีน้ำมันเคลือบ เมล็ดแน่น แข็ง กลิ่นหอมสดใส กรดผลไม้เด่น กลิ่นดอกไม้/ผลไม้ โทนหวานใส บอดี้เบาถึงกลาง แสดงเอกลักษณ์แหล่งปลูกชัด ดริป/พัวร์โอเวอร์, เครื่องกรอง, อเมริกาโน่/ลองแบล็ค, เอสเพรสโซสายสเปเชียลตี้ (ต้องจูนละเอียด)
คั่วกลาง (Medium Roast) สีน้ำตาลกลาง ผิวแห้งถึงกึ่งมันเล็กน้อย อาจเริ่มเห็นน้ำมันจาง ๆ กลิ่นคาราเมลชัดขึ้น สมดุลกรด–หวาน โทนคาราเมล ช็อกโกแลตอ่อน ถั่ว บอดี้กลาง ดื่มง่าย อเนกประสงค์: ดริป/เฟรนช์เพรส, เอสเพรสโซ, ลาเต้/คาปูชิโน่/แฟลตไวท์ ทั้งร้อน–เย็น
คั่วเข้ม (Dark Roast) สีน้ำตาลเข้มถึงเกือบดำ ผิวมันเงาเพราะน้ำมันออกมา กลิ่นควัน/คั่วเด่น ขมชัด กรดต่ำ โทนช็อกโกแลตเข้ม คาราเมลไหม้ ถั่วคั่ว บอดี้หนัก หลังรสยาว เอสเพรสโซเข้ม, อเมริกาโน่, มอคค่า พอต/โมคาพอต, เมนูใส่นม (รสกาแฟไม่ถูกกลบ), ไอซ์คอฟฟี่


กาแฟคั่วอ่อนและคั่วเข้มกับสุขภาพ


กาแฟคั่วอ่อนและกาแฟคั่วเข้มเกี่ยวข้องกับสุขภาพอย่างไร?

งานวิจัยแสดงให้เห็นว่าการดื่มกาแฟปริมาณพอประมาณประมาณ 3 แก้วต่อวันสามารถช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ ลดการอักเสบ และให้ผลดีกับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 แต่เนื่องจากงานวิจัยส่วนใหญ่เป็นแบบสังเกตการณ์และอาจให้ผลขัดแย้งกัน จึงต้องมีการทดลองเพิ่มเติมเพื่อยืนยัน


กาแฟมีสารอาหารสำคัญเช่น กรดคลอโรเจนิก โพลีฟีนอล และเมลานอยด์ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ กาแฟคั่วอ่อนมักมีสารอาหารเหล่านี้มากกว่าเนื่องจากกาแฟคั่วเข้มสูญเสียสารเคมีจากพืชไปบางส่วนระหว่างการคั่ว ในทางตรงกันข้าม กาแฟคั่วเข้มกลับมีอะคริลาไมด์ซึ่งเชื่อมโยงกับความเสี่ยงมะเร็งน้อยกว่า ทั้งนี้ประโยชน์ต่อสุขภาพยังขึ้นอยู่กับปริมาณครีมและน้ำตาลที่เติมลงไปด้วย


เมื่อรู้อย่างนี้แล้วระดับการคั่วกาแฟนั้นมีผลต่อรสชาติกาแฟเป็นอย่างมาก ใครที่ชอบรสชาติเบาบางหรือติดเปรี้ยวก็เลือกเป็นกาแฟคั่วอ่อน หรือต้องการเข้มขึ้นมากอีกนิดที่มาพร้อมกับความกลมกล่อมอย่างลงตัวอย่างกาแฟคั่วกลาง หรือจะเป็นกาแฟคั่วเข้มสำหรับคนที่ชอบรสขมเข้ม ปนหวาน ที่โดดเด่น


ทีนี้ไม่ว่าจะเป็นกาแฟเมนูไหนคุณก็สามารถเลือกระดับการคั่วเมล็ดกาแฟที่เหมาะสมกับความชอบของคุณได้ จะทำให้เราสัมผัสได้ถึงรสชาติ ความเข้ม ดื่มด่ำไปกับสุนทรียภาพของกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเมนูกาแฟแก้วโปรดของคุณได้มากที่สุด


หากคุณพร้อมที่จะสำรวจโลกแห่งรสชาติกาแฟที่หลากหลายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นความสดชื่นของกาแฟคั่วอ่อน ความกลมกล่อมของคั่วกลาง หรือความเข้มข้นของคั่วเข้ม กาแฟแคปซูลเนสเพรสโซ่มีให้คุณเลือกสรรครบทุกระดับการคั่วจากแหล่งปลูกกาแฟชั้นยอดทั่วโลก เพียงคลิก ที่นี่ เพื่อค้นหาแคปซูลกาแฟที่ตรงใจคุณที่สุด และเริ่มต้นประสบการณ์การดื่มกาแฟที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป




คำถามที่พบบ่อย

กาแฟคั่วอ่อนหรือกาแฟคั่วเข้ม มีคาเฟอีนมากกว่ากัน?
โดยทั่วไป กาแฟคั่วอ่อนจะมีปริมาณคาเฟอีนมากกว่าจากกระบวนการที่ใช้ความร้อนต่ำและเวลาคั่วสั้น ทำให้คาเฟอีนยังคงอยู่มากกว่าเมล็ดที่คั่วเข้ม
การคั่วเข้มทำให้รสขมมากขึ้นเพราะอะไร?
เพราะการคั่วนานทำให้น้ำตาลในเมล็ดกาแฟคาราเมลไลซ์มากขึ้น และเกิดสารประกอบที่ให้รสขม
ระดับการคั่วส่งผลต่อร่างกายอย่างไร?
  • คั่วอ่อน: มีสารต้านอนุมูลอิสระและกรดคลอโรเจนิกสูงกว่า อาจช่วยเรื่องการเผาผลาญ
  • คั่วกลาง: สมดุลทั้งรสชาติและสารอาหาร
  • คั่วเข้ม: กรดต่ำ ดื่มง่ายต่อกระเพาะ แต่สารต้านอนุมูลอิสระบางชนิดลดลง
ระดับการคั่วส่งผลต่อครีม่าของเอสเปรสโซหรือไม่?
ใช่ คั่วกลางและคั่วเข้มมักให้ครีม่ามากกว่า เพราะน้ำมันและคาร์บอนไดออกไซด์ถูกปล่อยออกมามากขึ้น
จะรู้ได้อย่างไรว่าคั่วแบบไหนเหมาะกับเรา?
เริ่มจากลองเมนูเดียวกัน (เช่น อเมริกาโน่) กับกาแฟคั่วทั้ง 3 ระดับ แล้วสังเกตว่าชอบรสชาติและความรู้สึกหลังดื่มแบบไหนมากที่สุด